วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

"ดำดุจปีศาจ ร้อนดั่งนรก บริสุทธิ์เช่นทูตสวรรค์ หวานปานความรัก"--ชาร์ลส์ โมริซ เดอ ตัลยีรองด์

อุมาพรจ๊ะ …..Would you like a cup of coffee?
เธอมาทำงานที่นิวยอร์คหลายปีแล้ว ฉันขออาสาเขียนจดหมายเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง เผื่อเธอจะอ่านเพลินแล้วลืมเรื่องที่ทำให้ใจต้องเหงาลงได้บ้างนะ ....... 
สิบปีก่อน ฉันมีโอกาสได้เข้าเรียนคอร์สชงกาแฟสดเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มในราคาที่ถูกแสนถูกเพราะได้รับเงินสมทบจากชมรมกิจกรรมนอกเวลาของที่ทำงาน  ฉันรีบสมัครทันที ไม่ใช่เพราะติดกาแฟ ฉันเกลียดกลิ่นลมหายใจหลังจากดื่มกาแฟเป็นที่สุด ฉันไม่เคยพิสมัยอยากดื่มกาแฟเลย แต่เพราะราคาที่ถูกแสนถูกกับความรู้ที่จะได้รับ ฉันถือคติ “The opportunity knock your door at once in a life time”  ฉันตอบรับทันที
กลิ่นหอมของกาแฟบด โชยต้อนรับตั้งแต่เริ่มเดินเข้าห้องเรียน เสียดายแทนเธอจัง เพราะประสาทสัมผัสทางจมูกโดยตรงของเธอมันไม่ทำงาน เธอไม่ได้กลิ่นของอะไรมานานแล้ว แต่ไม่เป็นไร เสน่ห์ของกาแฟยังมีมากกว่านั้น ประสาทสัมผัสของคนเรามีทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง กาย และใจ เธอเปิดรับทางสัมผัสอื่นก็ได้ ฉันยืนยันได้ในฐานะคนเคยไม่ดื่มกาแฟ แต่ติดการดื่มกาแฟหลังจากเรียนจบจนถึงทุกวันนี้ อย่ากระเซ้าว่า ดัดจริตติดกาแฟ นะเธอ สุนทรีย์แห่งชีวิตมันเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ตอนค่อยๆ จิบพร้อมทำลิ้นห่อแล้วซดจากปากถ้วย เหมือนตอนเธอซดข้าวต้มกุ๊ยร้อนๆ จากปากชาม วิธีนี้ครูสอนมา เพราะจะทำให้เราได้รับกลิ่นจากบริเวณภายในลำคอด้านหลัง  กาแฟที่ดีนั้น กล่าวกันว่า ต้องดำเหมือนปีศาจ ร้อนดุจนรก บริสุทธิดุจนางฟ้า และหอมหวานเหมือนความรัก
มิน่าล่ะ สตาร์บัคถึงเปิดสาขาทั่วโลกเป็นหมื่นสาขา ในปี 1992 Starbucks เข้าจดทะเบียนในตลาด NASDAQ ต่อมา Starbucks เปิดสาขาแรกนอกอเมริกาเหนือในปี 1996 ที่นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันจากตัวเลขล่าสุดของเดือนพฤษภาคมปี 2550 ในเขตอเมริกาเหนือ Starbucks มีสาขาที่บริษัทดำเนินการเอง 6,281 สาขา และสาขาที่ดำเนินการผ่านใบอนุญาต จำนวน 3,533 สาขา ส่วนในต่างประเทศ มีสาขาที่บริษัทดำเนินการเอง 1,553 สาขา และสาขาที่ร่วมทุนและดำเนินการผ่านใบอนุญาต จำนวน 2,361 สาขา (*)
เคยสงสัย ว่าทำไมการตั้งราคาขายกาแฟสดถึงมีตั้งแต่ 20 บาทไปจนถึงหลักร้อยบาท ปัจจัยหนึ่งคือตัวเมล็ดกาแฟสด พันธุ์ที่หาได้ง่ายและราคาถูก ให้กลิ่นที่ไม่ละมุนนัก แต่ให้คาเฟอีนในระดับสูง ดื่มแล้วกระชุ่มกระชวยมาก เรียกว่า โรบัสต้า ภาคใต้ของบ้านเราหาได้ง่าย ส่วนพันธุ์ที่แพงกว่าเพราะหาได้ยากกว่า ให้กลิ่นกาแฟที่ละมุนละไม ปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่า  เป็นประเภท อาราบิก้า” …..เธอชอบแบบไหน
หลายปีก่อน ฉันเคยมีปัญหาเวลาเข้าร้านกาแฟ อยากจะทันสมัยกับเขาบ้าง แต่สั่งไม่เป็น แม้ว่า บาริสต้า (คนชงกาแฟสด) จะแนะนำแล้ว ก็ยังจำไม่ได้  มาวันนี้สั่งเป็นแล้ว เมนูโปรดตอนนี้คือ คาปูชิโนร้อน เป็นน้ำกาแฟสดที่ชงออกมาจากเครื่องใส่แก้วเล็ก ๆ เรียกว่าชอต (เอสเปรสโซ)ผสมกับนมสดที่ตีฟองจนนวนเนียนฟู ดื่มแล้วฟองติดอยู่ที่มุมปากเล็กน้อย กลิ่นอโรมาจากกาแฟโชยเข้าจมูก เคล้ากับเสียงเพลงบรรเลงคลอๆ ... แหม...ช่างมีความสุขซะนี่กระไร ซักแก้วไหม....
ส่วนแฟนฉันชอบ อเมริกาโนเป็นน้ำกาแฟสดผสมน้ำร้อน เขาเบื่อร้านกาแฟบางเจ้าที่ใส่นมปรุงแต่ง ไม่ใช้นมสดมาชง  เลยเลี่ยงมาสั่งเมนูนี้ แต่หลายหนถ้าซื้อในร้านที่มีมาตรฐานดี เขาก็สั่ง ลาเต้คือกาแฟชอตใส่นมมากหน่อยแต่ไม่ได้ตีนมจนฟูเหมือน  คาปูชิโน
มีบางครั้งที่นึกสนุก สั่งเอสเปรสโซร้อนมาดื่ม แทบจะกระโดดหลังกระดกกันเลยทีเดียว ครูเคยสอนว่า เอสเปรสโซสำหรับฝรั่ง บางครั้งเขากระดกเข้าปากทีเดียวหมดแก้วหรือหมดชอต ให้ร่างกายสดชื่นตื่นทันที ไม่มีน้ำตาลหรือนมใส่เข้าไปให้ยุ่งยาก   
            วันไหนไม่ได้ซดกาแฟ วันนั้นอาเดแกง่วงนอนทั้งวัน กระสับการส่ายอยู่ไม่สุก เช้ามาทุกวันต้องชงกาแฟสำเร็จรูปถ้วยเบ้อเริ่มกินก่อนเลย
            แม่เล่าให้ฉันฟังเวลาที่ฉันสงสัยว่าทำไมพ่อฉันไม่กินอาหารเช้าประเภทอื่นบ้าง นับแต่ลืมตาดูโลกมาจนบัดนี้สี่สิบกว่าปี ภาพถ้วยกาแฟใหญ่เบ้อเริ่มในมือพ่อเป็นภาพที่คุ้นตามานานยังคงอยู่ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ในบางวัน ฉันอาสาเป็น บาริสต้า ชงและเสริฟกาแฟสดให้พ่อได้ดื่มของหวานจากพระเจ้าโดยฝีมือลูกสาวดูบ้าง

            ตายล่ะ  ฉันเขียนเพลินมาเสียยาว ฉันคงต้องจบการเล่าเรื่องกาแฟสดของฉันในวันนี้ก่อนนะ ลืมไปว่าจะต้องรีบไปซื้อไซรัปกลิ่นวานิลลา ฉันจะเอามาเติมแทนน้ำตาลเวลาชงกาแฟสดน่ะ มันจะช่วยให้กลิ่นหอมละมุนมากขึ้น แฟนฉันเขาชอบน่ะ บ๊าย บาย นะจ๊ะ

ด้วยรัก
อากิโกะ